บทความสั้นโดย ดร.ธำรงค์ น่วมศิริ / 4 ตุลาคม 2565
เรียนพี่น้อง สอ.ครูอุตรดิตถ์ที่เคารพรักทุกท่านครับ
*วันนี้ ผมดร.ธำรงค์ น่วมศิริ ขอทำความเข้าใจเรื่อง “ หุ้น” ครับ
-หุ้นเป็นการลงทุนของสมาชิกในสหกรณ์ ตามความสมัครใจและข้อบังคับของสหกรณ์
-หุ้นเมื่อรวมกันเป็นสินทรัพย์ของสหกรณ์ และนำไปให้”สินเชื่อ”สมาชิกได้รับ ”ดอกเบี้ย” เป็นกำไรของสหกรณ์เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วเป็น”กำไรสุทธิ” สิ้นปีการเงินก็ นำไปแบ่งปันกันในรูป”เงินปันผล”ใช้ต้วหารแบ่งคือ “หุ้น”
-สมมติ “กำไร 100ล้าน” หุ้น 1,000ล้าน ก็ปันผล”ร้อยละ10” (100*100 /1,000)
-ถ้ากำไร100ล้าน หุ้น2,000 ล้าน “ปันผลร้อยละ5”
-หุ้นมากได้มาก/หุ้นน้อยได้น้อย สหกรณ์แทบทุกแห่งจะกำหนดเพดานหุ้นเพื่อป้องกันการเอาเปรียบผลประโยชน์”ปันผล “
-สหกรณ์เราไม่มีการกำหนดเพดานหุ้น ทำให้ช่องว่างหุ้นแตกต่างกันมาก หุ้นผู้มีสูงสุด70ล้าน ลดหลั่นมา 100คนแรกรวมมีหุ้นมากกว่า 1,000 ล้านในขณะที่สมาชิกอีก7,000กว่ามีหุ้นรวม4,000 ล้าน(หุ้นรวมของสหกรณ์ 5,010ล้าน)
-สหกรณ์สนับสนุนให้ซื้อหุ้นสะสมทุกเดือน เพราะสมาชิกมีรายได้เป็นเดือน ท่านใดมีหุ้นต่ำกว่า4ล้านลงมา สะสมหุ้นได้ ไม่เกิน5,000 บาท *แต่สมาชิก จะมาซื้อหุ้นกรณีพิเศษ (เช่นซื้อคราวเดียว)สหกรณ์ให้งดไว้ก่อนครับ เพื่อความเป็นธรรมของสมาชิกส่วนใหญ่*ที่ผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ก็จัดระบบใหม่ให้เป็นธรรม ต่อไปนี้ อายุน้อยหุ้นน้อย อายุมากขึ้นก็หุ้นเพิ่มขึ้น/ใครกู้เงินมากก็มีหุ้นเป็นหลักประกันมาก กู้น้อยหุ้นก็น้อยกว่า เป็นเช่นนี้
-สมาชิกกู้เงิน12,800 ล้านบาท หุ้น 5,010ล้าน เงินฝากสมาชิก 5,900 ล้าน สหกรณ์ก็กู้ยืมจากธนาคาร 1,400ล้าน บาท ลดลงจากเดิมต้องกู้เกือบ3,000ล้าน ก็สามารถบริการสมาชิกได้ปกติ มีเงินสภาพคล่อง300ล้าน เพียงพอทำธุรกิจในแต่ละวัน
-สมาชิกสะสมหุ้นรายเดือน เพิ่มปีละ 300ล้าน อีกสามปีข้างหน้า สหกรณ์เราต้องเอาเงินไปให้สหกรณ์อื่นกู้ละครับเพราะมีเงินล้นระบบของเรา ตามข้อมูลนะครับ ส่วนสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ควบคุมไม่ได้ครับ
**เห็นได้ว่า สหกรณ์บริหารงานเพื่อคนส่วนใหญ่และความเป็นธรรม ไม่เป็นนายทุนหน้าเลือด ไร้อุดมการณ์ครับ
-ดร.ธำรงค์ น่วมศิริ
รายงาน4ตค65🙏🏼🤟💙💚💜💛😁